การปลูกมะนาวนอกฤดู

“การปลูกมะนาวนอกฤดู”

                               เทคนิคการผลิตมะนาวนอกฤดู (ฤดูแล้ง) ในวงบ่อซีเมนต์

การปลูกมะนาวนอกฤดูเหมาะสำหรับเกษตรกรที่มีพื้นที่จำกัดดินปลูกพืชอื่นๆไม่เหมาะสม ผู้ที่สนใจสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ดีโดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน มะนาวจะมีราคาสูงทุกปีประมาณผลละ 2-7 บาท

การปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ สามารถบังคับให้ออกดอกติดผลตามวันเวลาที่เราต้องการได้ 100%  ผลผลิตประมาณ 250 -1,000 ผลต่อต้น ขึ้นอยู่กับ พันธุ์ อายุต้นและการปฏิบัติดูแลรักษา ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีการผลิตดังนี้

1.การคัดเลือกพันธุ์

มะนาวในวงบ่อซีเมนต์ใช้ได้ทุกพันธุ์ แต่ที่สำคัญต้องเป็นพันธุ์

ที่ต้องการของตลาด มีการออกดอก ติดผลง่ายให้ผลดก ผลขนาดใหญ่

เปลือกบาง น้ำมาก กลิ่นหอม และทนทานต่อโรคแมลง พันธุ์ที่ตลาดนิยม

ได้แก่ พันธุ์แป้นรำไพ แป้นจริยา พิจิตร1 และตาฮิติเป็นต้น พันธุ์พิจิตร 1

และพันธุ์ตาฮิติ เป็นมะนาวที่ทนทานต่อโรคแคงเกอร์ที่ผล ใบและลำต้นดีกว่าทุกพันธุ์

2. การเตรียมวงบ่อซีเมนต์

                ควรใช้วงบ่อซีเมนต์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ

80-100 ซม.สูง40-60 ซม. ที่ก้นบ่อควรมีฝาซีเมนต์ขนาด

80-100 ซม. เพื่อป้องกันไม่ให้รากมะนาวหยั่งลงดินนอกก้นบ่อ

3. การวางบ่อซีเมนต์

                เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานควรวางวงบ่อเป็นแถว

พื้นที่จำกัดควรวางแถวเดี่ยวระยะ 2 x 2เมตร หรือ 2 x 3 เมตร

แต่ถ้ามีพื้นที่เพียงพอ ควรวางวงบ่อแบบแถวคู่ 3 x 3เมตร

แต่ละคู่ห่างกัน 4 เมตร

4. การเตรียมดินปลูก

ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินชั้นบนที่มีลักษณะเป็นดินร่วน

มีความอุดมสมบูรณ์สูง โดยใช้อัตราส่วน ดินร่วน :

ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก : แกลบดำ อัตรา 3 : 2 : 1 หรือ

ดินร่วน : ปุ๋ยคอก : ปุ๋ยหมัก : แกลบดำ อัตรา 3 : 1 : 1 : 1

ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วตักใส่วงบ่อ และกดดินหรือขึ้นเหยียบดิน

โดยเฉพาะบริเวณขอบบ่อด้านล่างให้แน่น พูนดินสูงจากปากบ่อ 20-30 ซม.

เผื่อดินยุบตัวภายหลัง

5. การปลูกมะนาว

                นำต้นพันธุ์มะนาวจากต้นกิ่งตอน ต้นปักชำหรือ

ต้นต่อยอดที่สมบูรณ์แข็งแรงดีมาปลูกตรงกลางวงบ่อ โดยขุดหลุม

เล็กน้อย รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15

อัตรา 100-150 กรัม/หลุม ใช้มีดกรีดก้นถุงพลาสติกสีดำโดยรอบ

แล้วนำต้นมะนาวไปวางในหลุม กลบดินเล็กน้อย ใช้มีดกรีด

ถุงพลาสติกที่เหลือออก กลบดินแล้วกดดินให้แน่น

ใช้ไม้ไผ่ปักหลักกันลมโยกแล้วรดน้ำให้ชุ่ม

6. การดูแลรักษา

6.1 การให้น้ำ ใช้สายยางรดน้ำหรือต่อ

ระบบน้ำแบบมินิสปริงเกอร์รดน้ำ 1-2 วัน/ครั้ง หรือวันละ 1 ครั้งเฉพาะตอนเช้า

6.2 การใส่ปุ๋ย  หลังจากปลูกมะนาวได้ 1 เดือน โดยใส่ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่ง

การเจริญเติบโต โดยปุ๋ย 15-15-15 หรือ 16-16-16 + ปุ๋ยยูเรียเล็กน้อย

อัตรา 100-150 กรัมหรือครึ่งกำมือต่อต้น ใส่เดือนละครั้งในระยะบังคับ

ให้ออกดอกควรใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 หรือใส่ปุ๋ยที่มีตัวกลางสูงอัตรา 100-150 กรัมต่อต้น

6.3 การคลุมโคนต้น  หลังจากปลูกแล้วควรใช้เศษฟางข้าว หญ้าแห้ง แกลบดิบ

กาบมะพร้าว ฯลฯ คลุมโคนต้น เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและคลุมวัชพืชในวงบ่อ

6.4 การตัดแต่งกิ่ง  ถ้าต้นมะนาวสมบูรณ์ดี มะนาวจะแตกกิ่งเล็ก ๆ จำนวนมาก

ควรตัดกิ่งที่ไม่เป็นระเบียบกิ่งที่ซ้อนกัน กิ่งที่อยู่ด้านล่างของต้น รวมทั้งกิ่งที่เป็นโรค

และแมลงทำลายออก เหลือกิ่งหลักๆ กระจายไปทั่วต้นไม่ควรหนักไปทางทิศใดทิศหนึ่ง

มากเกินไป เมื่อมะนาวติดผลกิ่งอาจหักหรือต้นโค่นล้มได้

6.5 การค้ำกิ่ง  มะนาวที่ปลูกในวงบ่อ มีการกระจายรากจำกัด ในพื้นที่ที่มีลมแรง

เมื่อมะนาวติดผลดกมาก กิ่งอาจหักหรือโค่นล้มได้ ควรป้องกันโดยใช้ไม้ไผ่ค้ำยันกิ่ง

และลำต้นมะนาวแบบนั่งร้านสี่เหลี่ยม หรือปักเป็นกระโจมสามเหลี่ยม ให้มะนาวทุกต้น

6.6 การเพิ่มดินปลูก  หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตและการตัดแต่งมะนาวแต่ละปี

ควรนำดินร่วนผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตราส่วน  ดินร่วน 2  ส่วน  ปุ๋ยหมัก  1  ส่วน

 ขี้เถ้าแกลบดำ 1 ส่วน หรือดินร่วน 2 ส่วน   ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน  ผสมปุ๋ยเคมี  15-15-15

อัตรา  100-150  กรัมผสมให้เข้ากันดีแล้ว  นำมาใส่เพิ่มในวงบ่อให้เต็มปากบ่อมี

ลักษณะสูงขึ้นเล็กน้อย

7. โรคและแมลง กับแนวทางป้องกัน

7.1 โรคที่สำคัญ

                7.1.1 โรคแคงเกอร์  เกิดจากเชื้อแบคทีเรียป้องกันกำจัดโดยการใช้พันธุ์

ทนทานมากปลูกเช่นพันธุ์พิจิตร 1 พันธุ์ตาฮิติ ตัดแต่งกิ่ง ใบและผลที่เป็นโรคไป

เผาทำลาย และพ่นสารเคมี เช่น สารแคงเกอร์เอ็กซ์

7.1.2 โรครากและโคนเน่า   เกิดจากเชื้อราไฟทอฟทอร่า  ป้องกันกำจัด

โดยไม่ปลูกมะนาวลึกเกินไป   ไม่นำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักสดที่ยังไม่สลาย

ตัวดีมาเป็นวัสดุปลูก ใช้สารเมทาแลคซิลละลายน้ำรดบริเวณโคนต้นที่เป็นโรค

                7.1.3 โรคอื่น ๆ ได้แก่ โรคยางไหล  โรคใบแก้ว  โรคทริสเทซ่า และโรคราดำ

ป้องกันกำจัดเช่นเดียวกับพืชสกุลส้มทั่วไป

7.2 แมลงที่สำคัญ

                7.2.1 หนอนชอนใบ

การป้องกันกำจัด ควรตัดแต่งยอดอ่อนใบอ่อนที่มีไข่หรือหนอนไปเผาทำลายหรือ

พ่นสารเคมี ได้แก่สารคาร์บาริล หรือสารคาร์โบซัลแฟน

                7.2.2 เพลี้ยไฟ  การป้องกันกำจัด พ่นสารเคมีคาร์โบซัลแฟน หรือ อิมิดาโคลฟริด

                7.2.3 ไรแดง  การป้องกันกำจัด พ่นกำมะถันผงชนิดละลายน้ำในช่วงตอนเช้าหรือเย็น

หรือพ่นด้วยสารไดโคฟอล เช่น เคลเทน เป็นต้น เพื่อรักษาผิวไม่ให้ขรุขระหรือกระด้างไม่น่ารับประทาน

                7.2.4 เพลี้ยหอย  การป้องกันกำจัด ตัดแต่งกิ่งที่พบเพลี้ยหอยระบาดไปเผาทำลายหรือ

พ่นสารปิโตเลียม สเปรย์ออยล์

8. การบังคับต้นมะนาวให้ออกดอกติดผลนอกฤดูกำจัด

                 การบังคับต้นมะนาวในวงบ่อให้ออกดอกติดผลนอกฤดู ต้นมะนาวที่จะบังคับให้ออกผลนอกฤดูนั้น ควรมีอายุอย่างน้อย 8 เดือนขึ้นไป ส่วนมะนาวที่มีอายุมากกว่า 1 ปี และเคยออกดอกติดผลแล้ว ช่วงเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม ควรเด็ดดอก และผลมะนาวในฤดูออกให้หมดช่วงเดือน สิงหาคม-กันยายน ส่วนใหญ่จะมีฝนตกอยู่ควรงดการรดน้ำ พอถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายน ให้นำผ้าพลาสติกที่กันฝน ขนาดกว้าง 1-1.5 เมตร ยาว 1.5-2 เมตร มาคลุมรอบวงบ่อไว้ โดยให้ชายด้านหนึ่งมัดติดกับโคนต้นมะนาว ให้สูงจากพื้นดินปากบ่อ 20-30 ซม. คลุมไว้ประมาณ 10-15 วัน สังเกตใบมะนาวมีอาการเริ่มเหี่ยว ใบสลด อาจมีใบร่วงบ้างหรือเหี่ยวประมาณ 75-80% ให้นำผ้าพลาสติกออกแล้วให้น้ำพร้อมปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 100-150 กรัม ซึ่งถ้าต้นมะนาวสมบูรณ์ดี หลังจากให้น้ำและปุ๋ย 2 สัปดาห์ ต้นมะนาวจะผลิตาดอกหรือแตกใบอ่อนพร้อมออกดอกช่วงนี้ต้องหมั่นดูแลรักษาไม่ให้ศัตรูมาทำลายมะนาว โดยเฉพาะเพลี้ยไฟ ไรแดง และหนอนชอนใบเป็นต้น

9. การเก็บเกี่ยว

หลังจากมะนาวออกดอก ติดผลได้ 4-5 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตสู่ตลาดได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์และช่วงเดือนที่บังคับ ไม่ควรปล่อยผลมะนาวที่แก่แล้วอยู่บนต้นนาน ๆ เป็นการสิ้นเปลืองอาหารมาเลี้ยงผล อาจทำให้ต้นทรุดโทรมได้

แปลงต้นแบบภายในศูนย์ฯ

   

  

  

  

  

  

@spkphusing